การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์สุดมันส์กับฉากแอคชันแบบติดตาที่สร้างจากวิดีโอเกมสุดที่โด่งดังทั่วโลกกับภาคใหม่ ล่าสุด Resident Evil: Welcome to Raccoon City จากการร่วมมือกันของผู้สร้าง โจฮาน โรเบิร์ต และแฟนเกมทําให้ภาพยนตร์เรื่องผีชีวะในภาคนี้สนุก สำหรับจักรวาลผีชีวะที่หลายคนยังคงรอคอย และถือว่าโดยภาพรวมลงตัวที่สุด จากเมืองแรคคูนซิตี้ซึ่งเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองเพราะองค์กรลับร้าย Umbrella Corporation ซึ่งตอนนี้กลับจะกลายเป็นเมืองร้างและมีความลับที่น่ากลัวแฝงอยู่ใต้ดิน เหล่าผู้กล้าจึงรวมตัวกันเพื่อหาความจริงพยายามร่วมมือกันต่อสู้กับเหล่าวายร้าย
ที่มา Resident Evil เป็นหนึ่งในเกมสยองขวัญและเอาชีวิตรอดที่มีชื่อเสียงมาก เมื่อถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ก็ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบคนแสดงและแอนิเมชั่น ล่าสุด พวกเขาได้กลับมารีเมคอีกครั้ง โดยย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวในจุดเริ่มต้นของเกม โดยครั้งนี้ตั้งใจที่จะอ้างอิงจากต้นฉบับเกมให้มากที่สุด ภาพยนตร์ใหม่นี้มีชื่อว่า Resident Evil: Welcome to Raccoon City
เมื่ออัมเบรลล่า คอร์เปอเรชั่น บริษัทยายักษ์ใหญ่เฟื่องฟู เมืองแรคคูนซิตี้ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นบ้านที่แสนเฟื่องฟูกลับค่อย ๆ ตกต่ำลงเรื่อยและกลับกลายเป็นเมืองร้างในที่สุดหลังจากที่บริษัทเริ่มอพยพผู้คนและหายจากไปเมือง จนแค่เหลือเพียงแต่ปีศาจร้ายที่ยังคงอยู่และบ้างก็ถูกปลดปล่อยทำให้เป็ฯสาเหตุที่ชาวเมืองที่ยังคงหลบซ่อนอยู่เริ่มภายในเริ่มเปลี่ยนไป และกลุ่มคนที่ยังรอกชีวิตและมีความกล้าทั้งยังเข้มแข็งพร้อมที่จะออกมาเพื่อปกป้องและทำลายเหล่าปีศาจ ต้องพยายามที่จะวางแผนและต่อสู้กับความจริงเบื้องหลัง ด้วยการบุกเข้าไปในอัมเบรลล่า คอร์เปอเรชั่นโดยจะต้องรอดออกมาให้ได้ซึ่งเรื่องราวที่น่าติดตามนี้จะเป็นอย่างไร
ด้วยความพยายามที่จะจับทุกอย่างมาใส่ในเนื้อเรื่องเพื่อเอาใขแฟนๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งใจ แค่ฉากที่แคลร์เจอศพและต้องหนี ก็ทำให้คนดูอยากหาพารามากินบรรเทาอาการเวียนหัวอยู่แล้ว ยิ่งหนังดำเนินเรื่องไปก็ยิ่งสร้างปมใหม่ ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหนีออกจากแร็กคูนซิตี้ของแคลร์ หรือการที่คริสถูกเลี้ยงดูโดยวิลเลียม เบอร์กิน นักวิทยาศาสตร์ที่เคยเกือบพรากชีวิตแคลร์ในวัยเด็กไป รวมถึงปมอื่นๆ ที่หนังไม่ค่อยใส่ใจคลี่คลายเท่าไหร่
และเมื่อปมในเรื่องซับซ้อนขึ้นและซ้อนทับกันมากขึ้น ผู้สร้างหนังกลับเลือกที่จะตัดส่วนที่ซับซ้อนนั้นออกไปอย่างไร้ความเสียดาย และแทนที่ด้วยฉากหนีซอมบี้เพื่อลดความสับสนในพล็อตที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ ผลลัพธ์คือหนังซอมบี้ที่เหมือนเป็นการนำฉากจากเกมมาต่อกัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะให้ความบันเทิงแต่ก็เป็นหนังที่จบแล้วก็พร้อมจะลืมในทันที อีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึงคือการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีงบประมาณการสร้างเพียง 33 ล้านเหรียญ
ทำให้ความพยายามในการสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับในเกมกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำได้เพียงผิวเผินเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฉากสถานีตำรวจเมืองแร็กคูนหรือคฤหาสน์สเปนเซอร์ และผลที่ตามมาคือ ซีจีที่ควรจะเป็นงานที่เนียนกลับกลายเป็นการถอยหลังไปเสียอีก บางครั้งภาพยนตร์ปีก่อน ๆ ยังดูดีกว่าอีก นอกจากนี้พลังการแสดงของนักแสดงยังไม่มากพอที่จะทำให้ผู้ชมอยากเชียร์ตัวละคร เนื่องจากตัวละครเหล่านี้ขาดมิติและความลึกหรือความดึงดูดที่ทำให้อยากดูเหมือนเริ่มออกตัวใหม่ ๆ
การตีความตัวละครในแบบใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ปัญหาคือวิธีการออกแบบตัวละครเหล่านี้ต้องทำให้แฟนเกมรู้สึกไม่ถูกทำร้ายจิตใจ ซึ่งควรเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ นอกจากนี้ หนังยังไม่ได้ให้เวลาผู้ชมทำความรู้จักกับตัวละครอย่างเหมาะสม ทำให้ฉากแอ็คชันและสยองขวัญที่ควรเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กลับไม่สามารถทำให้ตัวละครเอกเหล่านี้ดูน่าสนใจหรือได้รับความเห็นใจจากผู้ชมเท่าที่ควร
Resident Evil: Welcome to Raccoon City ภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมชื่อดัง ผลงานของผู้กำกับ โยฮันเนส โรเบิร์ตส์ ได้รับการคาดหวังจากแฟน ๆ ทั่วโลก เนื้อเรื่องย้อนไปยังจุดเริ่มต้นในเมืองแรคคูนซิตี้ ที่เคยรุ่งเรืองเพราะองค์กร Umbrella Corporation แต่กลับกลายเป็นเมืองร้างที่เต็มไปด้วยความลับน่ากลัวใต้ดิน กลุ่มผู้กล้าต้องต่อสู้กับปีศาจและค้นหาความจริงในเมืองนี้ แม้จะพยายามเอาใจแฟน ๆ ด้วยการรวมทุกอย่างจากเกมเข้าไปในเนื้อเรื่อง แต่กลับทำให้เนื้อเรื่องซับซ้อนและไม่คลี่คลาย ปมหลาย ๆ จุดถูกตัดออกไปและแทนที่ด้วยฉากหนีซอมบี้ พล็อตเรื่องมีช่องโหว่มากมาย ภาพยนตร์ดูเหมือนการนำฉากจากเกมมาต่อกัน แม้จะให้ความบันเทิงแต่ก็พร้อมจะลืมในทันที นอกจากนี้งบประมาณการสร้างที่จำกัดทำให้ไม่สามารถสร้างบรรยากาศที่สมจริงได้ ซีจีดูไม่เนียน และนักแสดงขาดพลังในการแสดงที่ทำให้ผู้ชมเชื่อในตัวละคร